ก่อนอื่นมารู้จักกับ ท่อ PPR ท่อพีพีอาร์ คือ ท่อที่ผลิตจาก Polypropylene (PP) ซึ่งป็นพลาสติกโพลีโพรไพลีน ท่อ PPR มีลักษณะเป็นท่อสีเขียว PP-R (Polypropylene Random Copolymer) ที่ประเทศชั้นนำทั่วโลกเลือกใช้ ถูกคิดค้นโดยชาวเยอรมันพัฒนาจากเม็ดพลาสติก PPR (Polypropylene) โพลีโพรไพลีน ด้วยการจัดเรียงตัวอย่างไม่เจาะจง ทำให้ได้ท่อ PPR ที่มีคุณสมบัติทางเคมี และกายภาพที่ดี เหมาะสำหรับใช้งานใน ภาคอุตสาหกรรม อาคารสูง และในครัวเรือน ที่มี การจัดเรียง ตัวอย่างไม่เจาะจง ท่อพีพีอาร์จึงมี คุณสมบัติทางเคมี และกายภาพ ที่ดีเ หมาะกับการใช้งาน ระบบท่อประปา ท่อน้ำร้อน ท่อน้ำเย็น และงานท่อประเภทอื่นทั้งงานบ้านและงานอุตสาหกรรม ท่อและอุปกรณ์ท่อPPR (พีพีอาร์) คือ ท่อที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ไม่ก่อให้เกิด ผลเสียต่อสุขภาพ ของผู้บริโภค พร้อมทั้งยังมีคุณสมบัติที่ไร้กลิ่น ไร้รสชาติ ทนทานต่อสารเคมี ทำให้ ท่อพีพีอาร์ เหมาะอย่างยิ่งใน การใช้งาน สำหรับระบบน้ำดื่ม จึงมั่นใจได้ว่า ท่อ PPR คือ ท่อที่มีคุณภาพ น้ำที่ถูกลำเลียง ผ่านระบบท่อ PPR สะอาดถูกสุขอนามัยต่อผู้บริโภค การติดตั้งท่อppr กับข้อต่อ มีหลายวิธีด้วยกัน หลายท่านอาจทราบดีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นวิธีเชื่อมชน แต่แอดมินขอนำเสอวิธีการสุดล้ำ อีก1วิธี ที่จะช่วยให้การเชื่อมท่อง่าย ขึ้น ด้วย การเชื่อม ข้อต่อท่อ ppr แบบเชื่อมไฟฟ้า
ราคาข้อต่อ พีพีอาร์ แบบเชื่อมไฟฟ้า คลิก
เทคโนโลยีการติดตั้งท่อ PPR ที่ดีกว่า ด้วยหลักการทำงาน โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าขดลวดที่ฝั่งอยู่ในผนังของตัวข้อต่อ สร้างความร้อนทำให้เนื้อท่อ และข้อต่อหลอม เป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นปล่อยให้เย็น ท่อจะแข็งตัวและเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกันกับข้อต่อ จึงเหมาะสำหรับแนวท่อเมน (Main) ภายในอาคาร
สะดวกต่อการจัดวาง และติดตั้งในที่แคบ ให้การติดตั้งท่อขนาดใหญ่ในอาคารเป็นเรื่องง่าย!
ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ เชื่อมสอด Electro Fusion (E.F.) มาตรฐานส่งออกเยอรมนี
ท่อและข้อต่อผลิตจากโรงงานเดียวกันผสานเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีวันรั่ว!
รองรับท่อขนาดใหญ่ D75 – D315 (3” – 12”)
เครื่องเชื่อม PPR ที่รองรับการติดตั้งหรือการเดินท่อ PPR ประเภทนี้
วิธีการติดตั้งท่อและข้อต่อ ppr (E.F.) แบบ Electro Fusion เหมาะสำหรับแนวท่อเมน (Main) ภายในอาคาร สะดวกต่อการจัดวางและติดตั้งในที่แคบ ทำให้สามารถติดตั้งท่อขนาดใหญ่ในอาคารได้ขอบคุณภาพจาก ADVANCED MATERIALS CORPORATION
1. ตัดปลายท่อให้ตั้งฉาก 90 องศา แต่งปลายให้เรียบ ทำความสะอาดให้ปราศจากเศษท่อที่เกิดจากการตัด
2. กำหนดระยะในการเชื่อม โดยวัดจากระยะข้อต่อ ppr (E.F.) ที่ใช้
3. ทำการขัดผิวท่อที่มีความมันลื่นออกให้หมด ด้วยกระดาษทรายเบอร์ 1 (สำหรับขัดไม้) โดยขัดให้เลยจากตำแหน่งที่กำหนดไว้เพิ่มอีกประมาณ 1 ซม.
4. ทำความสะอาดผิวท่อทั้งด้านในและด้านนอก ด้วยผ้าสะอาดและแห้ง ให้ปราศจากฝุ่นหรือคราบสกปรก
5. นำท่อที่แห้งและสะอาด ประกอบเข้ากับข้อต่อ ppr (E.F.) ใช้ค้อนตอกโดยรอบจนถึงจุดที่กำหนด ระมัดระวัง ไม่ให้สายไฟขาด ทั้งนี้ในขณะทำการเชื่อมต้องมั่นใจว่าท่อ และข้อต่อ ต้องไม่เคลื่อนจากระยะความลึกที่กำหนดไว้ หากผิดพลาดอาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร และก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้
6. นำแจ็คของเครื่องเชื่อม (E.F.) เสียบเข้ากับข้อต่อโดยใช้มือบีบ เพื่อคลายล็อคก่อนเชื่อมกับข้อต่อ
7. นำหัวอ่านบาร์โค้ดยิงที่บาร์โค้ดข้อต่อ จะปรากฎเวลาในการให้ความร้อน (Fusion) และเวลาในการเย็นตัว (Cooling) ที่จอแสดงผลโดยอัตโนมัติจากนั้นกดปุม OK เพื่อเริ่มทำงาน
8. ปล่อยข้อต่อให้เย็นลงตามเวลา Cooling Time ที่กำหนดในตารางก่อนทำการทดสอบแรงดัน
9. ถอดแจ๊คออกจากข้อต่อ ppr (E.F.) โดยบีบขาแจ็คเพื่อคลายล็อค
10. ห้ามติดตั้งขณะฝนตก หรือสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง อีกทั้งไม่ควรต่อท่อกับข้อต่อทิ้งไว้ และไม่ควรฉีกถุงพลาสติกที่หุ้มข้อต่อออกในขณะที่ยังไม่ทำการเชื่อมทันที เพราะจะทำให้เกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้การประกอบไม่สมบูรณ์
11. เมื่อทำการเชื่อมตั้งแต่ 2 จุดหรือมากกว่านั้น หากมีระยะสั้นกว่า 1 เมตรต่อจุด จะต้องทำการเชื่อมจุดแรกให้เรียบร้อยก่อน โดยรอให้เย็นลงตามตาราง (Cooling Time) แล้วจึงดำเนินการเชื่อมประกอบจุดต่อไป เพราะในขณะทำการเชื่อมความร้อนจะทำให้ท่อเกิดการยืดตัว
!!! ในกรณีนำข้อต่อเชื่อมชน มาเชื่อมต่อกับข้อต่อ Electro Fusion (E.F.) ให้ขัดผิวข้อต่อเชื่อมชน เช่นเดียวกับการขัดผิวท่อ (ข้อ 3)
ขอบคุณข้อมูลจาก Thai PPR และ polymelt-thailand.com
ขั้นตอนการสั่งซื้อ ท่อPPR ง่ายนิดเดียวเพียง
- โทร.062-819-0666 , 098-990-9292 หรือ @ Line : @pipedee พร้อมแจ้งความต้องการใช้ท่อ ขนาด และจำนวนการใช้ พร้อมสถานที่จัดส่ง
- พนักงานขายเสนอราคา ให้คำปรึกษาการใช้งาน พร้อมลูกค้าสามารถชำระเงิน เข้าบัญชีบริษัทฯ
- ลูกค้ารอรับสินค้า เพื่อใช้งานตามเวลาที่กำหนด